นิทาน รัก 3 เศร้า ของดอกทานตะวัน พระอาทิตย์ และพระจันทร์



หลายท่านคงเคยได้ยินเรื่องที่ว่า ดอกทานตะวัน มักหันหน้าไปในทิศทางที่พระอาทิตย์อยู่เสมอ...

หลายๆ คนรู้อยู่แล้ว แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่ไม่ทราบ 🌻 ดอกทานตะวันแรกแย้มดอกนี้ก็เหมือนกัน เจ้าหล่อนพึ่งจะแตกเนื้อสาว และเป็นหนึ่งในคนที่รับรู้ว่า ‘ดอกทานตะวันจะหันมองเพียงดวงอาทิตย์’ เด็กน้อยสงสัยใคร่รู้ จึงเฝ้าดูพระอาทิตย์อยู่เนิ่นนาน

พระอาทิตย์เองที่มองสาวน้อยทานตะวันตัวกระจ้อยอยู่ก่อนแล้ว เมื่อเห็นว่าเจ้าหล่อนมีความสนใจเขาอยู่ไม่น้อย จึงส่องแสงสว่างไปยังลำต้นของเธอทุกวันๆ และสม่ำเสมอ...

แรกทีเดียวเจ้าหล่อนไม่ค่อยชินกับแสงแดดของพระอาทิตย์ เพราะในช่วงเช้าตรู่เขาก็ดูอ่อนโยน และทำให้เธอมีความสุข ช่วงสายๆ เธอเองก็ยังรอแสงที่ส่องสว่างจากดวงอาทิตย์ แม้ว่าแสงแดดในยามบ่าย จะแผดเผาจนทำให้เธอเกือบจะมอดไหม้ แต่ก็ทำให้เธอมีความสุข

ทานตะวันดอกนั้นเจ้าเอย...ไม่รู้เลยว่า ความสุขเพียงชั่วครู่จะนำพามาซึ่งฝันร้ายตลอดกาล... 

จากความสนใจใคร่รู้ กลับกลายเป็นความชอบ จากความชื่นชอบแปรเปลี่ยนเป็น ‘ความรัก’ โดยไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่เธอมอบหัวใจอันแสนมีค่าให้พระอาทิตย์ครอบครอง เพียงเพราะเด็กน้อยคิดว่าหากเธอให้สิ่งใดกับใครไป เธอก็จะได้สิ่งนั้นตอบแทน...



แต่มันไม่เป็นอย่างที่คิด...เมื่อเธอคิดครอบครองเขา เขากลับตีตัวออกห่าง ราวกับแม่เหล็กขั้วเดียวกัน ที่ยิ่งเข้าใกล้เท่าไร พระอาทิตย์กลับยิ่งถอยห่าง ห่างจากเธอไป ทีละนิด...ทีละนิด 

แม้ว่าตลอดเวลา จะมีทั้งผีเสื้อ หรือผึ้ง เข้ามาวนเวียนในหัวใจ แต่ดอกทานตะวันมิเคยหลงไหลไปกับสิ่งรอบตัว ในขณะที่พระอาทิตย์ค่อยๆ ลืมเธอไป นับแต่วันนั้น วันที่เธอคิดครอบครองเขา พระอาทิตย์คิดว่า เขาไม่สามารถหยุดเพื่อดอกทานตะวันตัวกระจ้อยได้ เขามีประโยชน์ ต่อทุกวัฎจักรบนโลกใบนี้...แม้กระนั้นพระอาทิตย์ก็ยังเฝ้ามองทุกการเคลื่อนไหวของดอกทานตะวัน...แต่เมื่อไรที่เธออยากจะครอบครองเขาอีกครั้ง เขาก็จะหนีหายไปภายใต้กลีบเมฆ...

ดอกทานตะวันเจ้าเอย...ใยหนอเจ้าถึงได้รักคนที่ยิ่งใหญ่อย่างพระอาทิตย์ ใยเจ้าจึงกล้าที่คิดจะครอบครองศูนย์รวมของโลกใบนี้...ข้าผิดเอง ที่คิดครอบครองท่าน...

ดอกทานตะวันคิดได้ จึงอยากจะเลิกหันหน้ามองพระอาทิตย์และคิดเติบโตด้วยตัวเอง แต่มันช่างยากเย็นเหลือเกิน ฉันมันอ่อนแอเกินไป ฉันไม่น่าคิดครอบครองเขาเลย...เจ้าดอกทานตะวันที่แสนสดสวยแต่กลับเศร้าโศก เฝ้าโทษตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยที่ไม่รู้เลยว่า เธอได้หลงลืมสิ่งสำคัญไป สิ่งสำคัญ ที่เฝ้ามองและเคียงข้างเธอตลอดในเวลาที่พระอาทิตย์หลงลืมเธอไป...เขาคือ ‘พระจันทร์’



พระจันทร์...ในยามราตรีที่เหน็บหนาว เขาเศร้าใจเหลือเกินที่ไม่สามารถให้ความอบอุ่นกับดอกทานตะวันที่น่าสงสารดอกนั้นได้ เพราะคนที่จะให้ได้ก็มีเพียงพระอาทิตย์ ต่อให้เขาอยากทำด้วยตัวเอง เขาก็ต้องทำภายใต้ร่มเงาของพระอาทิตย์ที่ยิ่งใหญ่...พระจันทร์รู้สึกต่ำต้อยด้อยค่าที่ไม่สามารถเปล่งประกายด้วยตัวเองได้ แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้ เขายอมอยู่ใต้ร่มเงาของพระอาทิตย์ ยอมเป็นเพียงสะพานข้ามให้แสงสว่างจากพระอาทิตย์สาดส่องไปถึงแม่ดอกทานตะวันที่แสนเศร้าในยามราตรีที่มืดมิด...อย่างน้อย เขาก็หวังว่าเธอได้รับรู้ถึงความตั้งใจของเขา แม้เพียงเศษเสี้ยวความรู้สึก ก็ยังดี

แม่ทานตะวัน...เจ้าอย่าเศร้าไปเลยแม่เอย เจ้ายังมีข้า ถึงข้าจะต่ำต้อยด้อยค่า เทียบไม่ติดกับพระอาทิตย์ที่เจ้าเฝ้ามอง แต่ข้าก็อยู่ตรงนี้เสมอและจะอยู่เช่นนี้ตลอดไป เมื่อดอกทานตะวันที่แสนจะอ่อนแอเหลือเกินในช่วงเวลาที่น่าเศร้าได้ยินดังนั้น เธอจึงยอมโน้มกายอิงแอบแนบซบดวงจันทร์ และเปิดใจยอมรับหยาดน้ำค้างในยามราตรี เพื่อให้ตัวเองสามารถอยู่ได้ โดยไม่ตายไปเสียก่อน...

ทุกอย่างก็คงสงบสุขดี ถ้าหากว่าพระอาทิตย์หายลับไปในกลีบเมฆตลอดกาล...พระอาทิตย์ส่งแสงสาดส่อง ลงมาทายทัก เจ้าดอกทานตะวันดอกน้อยดอกนั้นหันกลับไปมองพระอาทิตย์อย่างเสียมิได้ แม้ใจของเจ้าหล่อนจะปฏิเสธเขาแค่ไหน...

เธอพ่ายแพ้ให้แก่หัวใจตัวเอง เธอจำต้องยอมศิโรราบให้กับความยิ่งใหญ่ของดวงอาทิตย์ เธอต้องการแสงสว่างจากเขา...ขอแค่เขามองมา แค่เขาให้ความเมตตาเธอต่อให้พระอาทิตย์จะหายไปอีกกี่พันครั้ง เธอก็ยอม และไม่คิดจะครอบครองเขาอีกแล้ว เพียงแค่ดอกทานตะวันมองเห็นดวงอาทิตย์ในทุกๆ วัน...

พระจันทร์ที่เคยแต่เฝ้ามองและอยู่เคียงข้าง คิดมาตลอดว่าเขาทนได้ ขอแค่ได้อยู่ข้างๆ แต่ยามที่เห็นเธอชอกช้ำ เขาก็ทนไม่ได้จึงพยายามที่จะส่องแสงให้ได้ด้วยตัวเองด้วยการสร้างสมดุลให้กับโลกที่ดอกทานตะวันอาศัยอยู่ ทำให้ภายใต้ผืนดินที่เธออาศัยอยู่ มีความอบอุ่น อุดมสมบูรณ์ เสริมสร้างดอกทานตะวันที่แสนเปราะบางให้มีแต่ความแข็งแกร่ง ให้เธอเติบโตขึ้นเรื่อยๆ เรื่อยๆ...โดยที่เธอคิดว่าเธอเติบโตได้เป็นเพราะเธอหันหน้ารับการการส่องแสงสว่างจากดวงอาทิตย์เพียงเท่านั้น...โดยไม่เคยหันมองเลยว่า พระจันทร์เอง เพื่อให้ดอกทานตะวันได้มีความสุข เขาต้องเหนื่อยหนักแค่ไหน...

เทียบกับมนุษย์เราแล้ว คงไม่มีใครอยากฝืนใจตัวเอง หรืออยากเป็นตัวฟรีของใครหรอกค่ะ ดอกทานตะวันดอกนั้นก็เหมือนกัน คิดไปเองว่าตัวเองอ่อนแอ อยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีพระอาทิตย์ 

ซึ่งไม่จริงเลยค่ะ ทุกท่านรู้ไหมคะว่าดอกทานตะวันไม่ต้องมีพระอาทิตย์ตลอดไปก็ได้ เพราะเมื่อถึงจุดนึงที่มนุษย์เรายอมรับความจริงและคิดได้ว่าเราสามารถแข็งแกร่งด้วยตัวเองได้รวมถึงการเปิดใจให้กับสิ่งที่ดีต่อชีวิตและจิตใจเรามันช่วยได้เยอะเหมือนกันนะ ในความเป็นจริง การหันหน้าของดอกทานตะวันตามดวงอาทิตย์นี้จะหยุดเมื่อดอกทานตะวันโตเต็มที่

เห็นไหมล่ะว่าเราสามารถ move on หรือก้าวเดินต่อไปข้างหน้าได้ อย่ายึดติดและคิดไปเองว่า ทั้งชีวิตของเราต้องมีแค่พระอาทิตย์หรือคนที่เรารักเขาเท่านั้น อยู่กับตัวเองให้มากๆ ทบทวนทุกเรื่องราว ขอบคุณคนที่เขาได้สร้างความเจ็บปวดและบาดแผลให้เรา เพราะนี่จะเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ในชีวิตที่จะสอนให้เราตั้งรับทุกเรื่องที่ผ่านเข้ามา ปิดกั้นสิ่งแย่ๆ ที่จะมาถึงตัวได้ แต่อย่าปิดใจเปิดรับคนดีๆ จงใช้ประสบการณ์แย่ๆ เป็นบทเรียน อย่าใช้เป็นข้อตัดสินคนใหม่ที่เข้ามา : )

แม้ว่าวันนี้คุณอาจยังไม่เจอพระจันทร์ที่เป็นของตัวเอง  ขอจงอย่ารีบร้อน อยู่กับตัวเองไปก่อน ทำความเข้าใจตัวเอง รักตัวเองให้มากๆ ให้อภัยเขาและให้อภัยตัวเอง ใช้ชีวิตอยู่ต่อไป...เพราะชีวิตคือชีวิต โลกนี้มันกว้างใหญ่ มีอะไรอีกมากมายให้พบเจอ ความเจ็บปวดไม่ใช่ที่สุดของทุกอย่าง

แล้วสักวัน โลกจะเหวี่ยงคนที่ใช่ ในเวลาที่ใช่ โลกจะเหวี่ยงพระจันทร์มาหาคุณถึงบ้าน ราวกับโทรสั่งพิซซ่าเดลิเวอรี่เลยแหละ สู้ๆ นะ ทุกคนที่กำลังจะ Move on ❤️🤟🏻

ถ้าเจอพระจันทร์ของตัวเองแล้ว อย่าลืมกอดเขาแน่นๆ และขอบคุณที่เขายังอยู่ และขอโทษที่อาจจะมองเห็นเขาในสายตาช้าไป...เจอแล้วก็คว้าไว้ให้อยู่หมัด มีสิ่งดีๆ อยู่กับตัว รักษาไว้นะคะ มันไม่ได้หากันได้ง่ายๆ 🌻🌙



ขอบคุณข้อมูลดอกทานตะวันจาก http://redd-net.org/ทานตะวันกับดวงอาทิตย์/

และรูปภาพจากหลาย ยูสเซอร์ By Pinterest

ความคิดเห็น